คอนโดหาดใหญ่

Leasehold กับ Freehold สำคัญอย่างไรกับผู้ซื้อคอนโด

การลงทุนซื้อคอนโดในหาดใหญ่ สำหรับปล่อยเช่าในอนาคต ถือเป็นการลงทุนที่นักลงทุนยุคใหม่ให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจาก หาดใหญ่เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง ทั้งในแง่การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่าเข้าสู่จังหวัดสงขลาตลอดทั้งปี 

รวมถึงมีการหลั่งไหลเข้ามาตั้งถิ่นฐานของคนไทย และชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาของอสังหาริมทรัพย์พุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย สำหรับนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์มือใหม่ที่สนใจลงทุนซื้อคอนโดมิเนียมในหาดใหญ่อาจมีข้อสงสัยว่า

การลงทุนแบบ Leasehold และ Freehold สำคัญอย่างไรต่อการลงทุนในวงการอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งในบทความนี้ World Crop จะมาไขข้อกระจ่างให้กับนักลงทุนมือใหม่ทุกท่าน พร้อมแชร์ทริคซื้อคอนโดหาดใหญ่ให้คุ้มค่ากับการลงทุนทุกรูปแบบ จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราไปดูกัน

ทำความเข้าใจก่อนลงทุน Leasehold กับ Freehold คืออะไร

ก่อนเริ่มลงทุนซื้อคอนโด สิ่งที่นักลงทุนทุกคนต้องรู้ และทำความเข้าใจก่อนเป็นอันดับแรก คือ ประเภทของคอนโดที่จะลงทุน โดยทั่วไปแล้วประเภทการลงทุนของคอนโดมิเนียม สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่

1. การลงทุนแบบ Leasehold

Leasehold คือ การเช่าซื้ออสังหาริมทรัพย์ในระยะยาวโดยไม่ได้รับกรรมสิทธิ์ และผู้เป็นเจ้าของสินทรัพย์ดังกล่าวต้องชำระค่าเช่า ตามอัตราค่าเช่าที่กำหนดเป็นรายงวด ซึ่งกฎหมายกำหนดไม่เกิน 30 ปี เมื่อครบกำหนดตามสัญญาจะต้องคืนสิทธิ์ให้เจ้าของทันที และต้องคืนอสังหาริมทรัพย์ให้เจ้าของด้วย

ดังนั้น การเช่าซื้อคอนโดแบบ Leasehold จึงเหมาะกับกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจาก ราคาถูก ใช้เงินต้นทุนต่ำ และกระจายความเสี่ยงได้ดีกว่าอสังหาริมทรัพย์แบบ Freehold

ทั้งนี้ การลงทุนซื้อคอนโดแบบ Freehold ต้องยอมรับในเรื่องของความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต เช่น หากเกิดการชำรุดเสียหายจากภัยพิบัติ หรือถูกเวนคืนที่ดินในช่วงที่ยังติดสัญญาเช่าอยู่

โดยผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์จะไม่ได้รับค่าชดเชยในส่วนของที่ดิน และอาคารโดยข้อดีของการลงทุนแบบ Leasehold มีดังนี้

  • ราคาย่อมเยา คอนโดมิเนียมแบบ Leasehold จะมีราคาต่ำกว่าคอนโดแบบ Freehold ประมาณ 30-40 % ง่ายต่อการปล่อยเช่า 
  • สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เนื่องจาก คอนโด Leasehold มักตั้งอยู่บนทำเลทอง ซึ่งรายล้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมกับการเดินทางที่สะดวกสบาย ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยที่ชอบใช้ชีวิตสไตล์คนเมือง
  • ชาวต่างชาติสามารถถือครองได้ไม่จำกัด ทำให้มีสภาพคล่องในการเปลี่ยนมือมากขึ้น และไม่มีการจำกัดเวลาในการเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ ยูนิตที่ถือครองโดยชาวต่างชาติ ยังเป็นที่ต้องการมากกว่าในตลาดขายต่อ
  • คอนโดส่วนใหญ่มาจากโครงการคุณภาพ ทำให้เจ้าของอสังหาฯ มั่นใจได้เลยว่า หากเกิดปัญหาด้านโครงการ ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญเข้ามาดูแลทันที

2. การลงทุนแบบ Freehold

Freehold คือ การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์แบบขายขาด โดยผู้ซื้อจะได้ครอบครองกรรมสิทธิ์อย่างเต็มตัว ทั้งยังสามารถปรับปรุง ซ่อมแซม และตกแต่งห้อง เพื่อลงทุนทำกำไรต่อได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ปล่อยเช่า หรือขายต่อในราคาที่สูงกว่าคอนโดมิเนียมแบบ Leasehold

ที่สำคัญ ยังกลายเป็นมรดกตกทอดให้แก่ลูกหลานได้ ทั้งนี้หากเกิดภัยพิบัติ หรือถูกเวนคืนขายที่ดิน เจ้าของกรรมสิทธิ์จะได้รับค่าชดเชยตามสัดส่วนในโฉนดที่ดินนอกจากนี้ การลงทุนแบบ Freehold ชาวต่างชาติสามารถ ถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้เพียง 49 % จากจำนวนยูนิตทั้งหมด

หากชาวต่างชาติต้องการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ จำเป็นต้องหาหุ้นส่วนเข้ามาช่วยซื้อให้ โดยข้อดีของการลงทุนซื้อคอนโดแบบ Freehold มีดังนี้

  • ถือครองกรรมสิทธิ์อย่างเต็มตัว ทำให้เจ้าของกรรมสิทธิ์สามารถลงทุนได้อย่างอิสระ และมีสิทธิได้รับหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด (อ.ช.2) ที่ออกโดยกรมที่ดิน
  • มูลค่าคอนโดมิเนียมสูงขึ้นตามราคาที่ดิน ในอนาคตหากอสังหาริมทรัพย์ หรือที่ดินนั้น ๆ มีแนวโน้มสูงขึ้น เจ้าของกรรมสิทธิ์สามารถทำผลตอบแทนได้จากค่าเช่า และกำไรจากส่วนต่าง (Capital Gain) 
  • มีโอกาสกู้กับธนาคารในวงเงินสูง เนื่องจาก การลงทุนซื้อคอนโดแบบ Freehold เจ้าของกรรมสิทธิ์มีโอกาสกู้ธนาคารได้วงเงินสูงสุด 100 % หรือมากกว่าตามเงื่อนไขของธนาคาร

เคล็ดลับ เลือกซื้อคอนโดให้ตอบโจทย์การลงทุน แบบ Leasehold และ Freehold

หลังจากที่ทุกท่านได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนแบบ Leasehold และ Freehold กันไปแล้ว ลองมาดูเคล็ดลับการเลือกซื้อคอนโดกันบ้าง เพื่อผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว

ซึ่งการจะลงทุนซื้อคอนโด สำหรับปล่อยเช่า หรือขายต่อในอนาคต ก็มีสิ่งที่นักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ต้องคำนึงมากมาย ดังนี้

  • ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย

สิ่งสำคัญ ที่นักลงทุนมือใหม่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ ก่อนตัดสินใจซื้อคอนโดหาดใหญ่เพื่อลงทุน คือ สำรวจกลุ่มเป้าหมายให้เรียบร้อย โดยพิจารณาว่ากลุ่มลูกค้าอยู่ในระดับไหน มีกำลังการจ่ายมากน้อยแค่ไหน และทำเลที่ถูกใจ มีศักยภาพมากพอต่อความต้องการของกลุ่มผู้เช่าหรือไม่ 

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณครอบครองกรรมสิทธิ์คอนโดแบบ Leasehold และต้องการปล่อยเช่าให้กับกลุ่มนักศึกษา ควรมองหาคอนโดในทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวกสบาย ภายในห้องตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น หรือมินิมอล และพื้นที่ส่วนกลางต้องกว้างขวาง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมองว่าราคาที่จ่ายไปคุ้มค่า และครอบคลุมการใช้ชีวิตรอบด้าน

  • สำรวจทำเลให้ดี ก่อนตัดสินใจซื้อ

สิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุนซื้อคอนโด ทั้งแบบ Leasehold และ Freehold คือ การเลือกทำเล โดยนักลงทุนควรสำรวจว่าทำเลนั้น มีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตอย่างไรได้บ้าง เช่น ในอนาคตจะมีการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเติมหรือไม่ และระบบขนส่งสาธารณะ มีแนวโน้มขยายเพิ่มในอนาคตมากน้อยแค่ไหน

นอกจากนี้ ทำเลที่ดีต้องมองเห็นมูลค่าของราคาที่ดิน ที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทุกท่านควรดูแนวโน้มของนโยบายรัฐบาลต่าง ๆ รวมถึงการจัดโซนของผังเมือง จะช่วยให้เห็นภาพการพัฒนาในอนาคตอันใกล้ ว่าความเจริญจะวิ่งเข้าหาคอนโดมิเนียม ที่หมายตาไว้หรือไม่ เพื่อเตรียมโกยกำไรเข้ากระเป๋า จากการปล่อยเช่า หรือขายต่อในอนาคต

  • สำรวจไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต

รู้หรือไม่ ? คอนโดมิเนียมแบบ Leasehold และคอนโดมิเนียมแบบ Freehold สามารถกำหนดไลฟ์สไตล์ของผู้เช่าได้ โดยคอนโดแบบ Leasehold เหมาะสำหรับวัยทำงาน และนักศึกษาที่ต้องการอยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมเพียงระยะหนึ่ง เพื่อความสะดวกสบายในการโยกย้ายที่อยู่อาศัยตามสถานที่ทำงาน และสถานศึกษา

ในขณะที่คอนโดมิเนียมแบบ Freehold เหมาะสำหรับการลงทุน เพื่อปล่อยเช่า หรือขายต่อให้กับครอบครัวใหญ่ และวัยทำงานที่ต้องการลงหลักปักฐาน ซึ่งกำลังมองหาที่อยู่อาศัยบนทำเลคุณภาพ ตอบโจทย์การใช้ชีวิตรอบด้าน โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนที่อยู่อาศัยบ่อย ๆ

  • ประเมินความเสี่ยงทางการเงิน

การลงทุนซื้อคอนโด ถือเป็นการลงทุนในทรัพย์สินชิ้นใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินเยอะกว่าการลงทุนประเภทอื่น ดังนั้น ก่อนที่จะลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ควรมีเงินทุนสำรองไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางการเงินในอนาคต จากความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น

เช่น ความเสี่ยงจากการหาผู้เช่าไม่ได้, ปัญหาเศรษฐกิจในอนาคต, ความเสี่ยงจากโครงการ และอื่น ๆ อีกมากมาย

  • เลือกขนาดห้องที่พอเหมาะ

ในการลงทุนซื้อคอนโดทั้งแบบ Leasehold และ Freehold ขนาดห้องย่อมมีผลต่อการตัดสินใจสำหรับผู้เช่า ดังนั้น ควรเลือกห้องขนาดกลางที่อยู่อาศัยแล้วสบาย ตอบโจทย์ทั้งการอยู่อาศัยคนเดียว และอาศัยร่วมกับครอบครัว

อย่าง ขนาดห้อง 32 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นห้องที่คนรุ่นใหม่นิยมเช่าอยู่เป็นอย่างยิ่ง ทำให้นักลงทุนมั่นใจได้เลยว่า เมื่อเลือกลงทุนกับขนาดห้องที่เหมาะสมแล้ว ย่อมได้กำไรเข้ากระเป๋าอย่างแน่นอน

ทั้งหมดนี้ก็คือ ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการลงทุนแบบ Leasehold และ Freehold ที่นักลงทุนมือใหม่ควรทำความเข้าใจให้ดี ก่อนลงทุนซื้อคอนโด เพื่อปล่อยเช่าให้กับกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ในอนาคต

นอกจากนี้ นักลงทุนหน้าใหม่ทุกคน ควรศึกษาเกี่ยวกับวิธีการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมอย่างละเอียด ซึ่งการอัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ ในวงการอสังหาริมทรัพย์อยู่ตลอดเวลา ย่อมช่วยให้คุณได้รับผลกำไรจากการลงทุน และรู้เท่าทันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อยู่เสมอ

สำหรับใครที่กำลังมองหาคอนโดหาดใหญ่ที่ตอบโจทย์การลงทุนหลากรูปแบบ และการันตีผลตอบแทนในระยะยาว เราขอแนะนำโครงการ The City Hatyai จาก World Crop โครงการคอนโดในหาดใหญ่ พร้อมอยู่อาศัย

โดยเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเข้ากับฟังก์ชัน และรูปแบบการเดินทางที่สะดวกสบาย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น co-working space สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ที่จอดรถ ห้องดูหนัง คาราโอเกะ และอีกมากมาย

Line: @world_corp

Tel: 02-026-6658

Email: Sales@worldcorp.co.th

Facebook: https://www.facebook.com/Worldcorp1